ทำดีที่เกินพอดี
การได้มีโอกาสย้อนดูไฟล์การทำงานประจำเก่า ๆที่ถูกเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์และในแฟ้มงาน ก็พบว่าที่ฝ่านมาเราทำงานเยอะและน่าจะใช้เวลาค่อนข้างเยอะเหมือนกันกับงานเหล่านั้น ซึ่งในขณะที่ทำงานนั้น ๆ คิดว่าจะต้องทำให้ดีที่สุด สมบูรณ์ที่สุด และมีมาตรฐาน แต่เมื่อเวลาผ่านไปและได้มาย้อนทบทวนดูก็เห็นว่าเกือบครึ่งหนึ่งที่เดียวที่เป็นงานที่เราทำดีเกินไป ( หมายถึงมาตรฐานของเนื้อหาสาระในงาน) มันไม่ได้ช่วยส่งผลอะไรมากกับหน่วยงาน เพราะมันไม่สอดคล้องกับบริบทของหน่วยงานโดยเฉพาะด้านแนวคิดและทัศนคติของเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ซึ่งแปลว่าที่ผ่านมานั้นเราทำดี... เกินความพอดี จึงเกิดความคิดว่า ต่อไปนี้...เราต้องปล่อยวาง ฟังความคิดคนอื่นมากขึ้น และยอมรับตามบริบทที่เป็นอยู่
ทำให้ปัจจุบันนี้มีความเบาสบายในการทำงาน ไม่เครียด แน่นอนส่วนหนึ่งเกิดจากวัยและอายุงานที่มากขึ้นทำให้มีประสบการณ์มาประมวลใช้เป็นกรอบคิดได้ การมองย้อนอดีตประกอบกับการตั้งใจฟังเพื่อนร่วมงานโดยไม่ยึดติดกับความคิดของตนเองเป็นหลัก ก็ทำให้แนวการบริหารจัดการแบบใหม่ของตนเองที่ดูเหมือนว่าสอดคล้องกับบริบทของหน่วยงาน โดยเฉพาะด้านทรัพยากรณ์บุคคลที่เรามีอยู่ จึงเชื่อว่าถ้าทำให้เกิดความพอดี ก็น่าจะส่งผลที่พอดีกับหน่วยงานและองค์กร รูแบบนี้ขอเรียกว่า การจัดการโดยใช้บริบทเป็นศูนย์กลาง (Context center management)
ราเมศร์
25/4/2014