วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

 ขึ้นเขาวงพระจันทร์....ตามฝันเมื่อวันวาน


         เมื่อประมาณยี่สิบกว่าปีที่แล้วผมเป็นทหารเกณฑ์อยู่ที่ลพบุรี และมีโอกาสได้นั่งรถผ่านเขาวงพระจันทร์และเห็นเขาวงพระจันทร์เป็นครั้งแรกก็เกิดความรู้สึกว่าอยากจะขึ้นไปบนยอดเขานี้  ตอนน้ันไม่รู้ว่าบนยอดเขามีอะไรบ้าง  ต่อมาผมก็มีโอกาสเห็นเขาวงพระจันทร์อยู่บ่อยครั้งเพราะบ้านเกิดของภรรยาอยู่ที่ตำบลจันเสน อำเภอตาคลี ในเวลาที่กลับบ้านก็จะมีธุระที่ต้องขับรถไปลพบุรีและเห็นเขาวงพระจันทร์อยู่ไกล ๆ และก็บอกกับตัวเองทุกครั้งว่าถ้ามีโอกาสจะไปขึ้นยอดเขานี้ แต่เวลาผ่านไปเป็นสิบปีก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปขึ้นและยังอยากไปขึ้นเขาอยู่  จนสุดท้ายเมื่อประมาณปลายปี 59 ก็ขับรถผ่านเขาอีกและก็บอกกับตัวเองและภรรยาว่าตอนนี้อายุมากแล้วคงขึ้นเขาวงพระจันทร์ไม่ไหวแล้ว  แต่ว่าเฟซบุ๊คก็มาขุดประกายให้ผมอีกเมื่อมีคนแชร์เรื่องการจัดงานประจำปีวัดเขาวงพระจันทร์พร้อมภาพบรรยากาศของการเดินเท้าขึ้นบันไดสามพันกว่าขั้นเพื่อขึ้นยอดเขา  ผมยังคงคิดว่าตัวเองขึ้นไม่ไหวแต่ขอแชร์ต่อให้เพื่อนเฟชบุ๊ค  อีกไม่ก้วันต่อมาก็เห็นภาพพี่ๆ ที่อายุมากกว่าผม และหลานตัวเล็ก ๆ โพสต์ขึ้นเฟชบุ๊คว่าไปขึ้นเขาวงพระจันทร์มาแล้ว  เท่านั้นเองครับแรงบันดาลใจก็เกิดกับผมทันทีว่าพี่ ๆ เขาขึ้นไหวผมก็ต้องไหว จังหวะได้พอดีเพราะอาทิตย์ถัดมาเป็นวันหยุดสามวันเรามีแผนจะเดินทางไปเยี่ยมพ่อแม่ที่บ้านจันเสน  ผมจึงกำหนดไว้ในแผนทันทีว่าผมจะไปขึ้นเขาวงพระจันทร์แต่ไม่รู้ว่าใครจะไปกับผมบ้าง
        และแล้ววันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งเป็นวันเกือบสุดท้ายของการจัดงาน  ผมกับลูกสาวก็พากันไปขึ้นเขาวงพระจันทร์  จากการได้คุยกับคนที่ไปมาแล้วก็ได้ข้อมูลว่าต้องเตรียมยาทานวดขาและทาตั้งแต่ก่อนขึ้นเพราะส่วนใหญ่หลังลงมาจะปวดขากันทุกคน  ภรรยาผมเตรียมข้าวเหนียวหมูทอดไว้ให้เป็นเสบียง เพราะผมตัดสินใจจะไปขึ้นตอนสาย ๆ น่าจะไปถึงยอดเขาประมาณเที่ยงวันเพราะมีคนบอกว่าใช้เวลาขึ้นประมาณสองชั่วโมง แต่ในช่วงจัดงานจะมีร้านค้าขายอาหารและเครื่องดื่มระหว่างทางขึ้นแต่ราคาจะแพง
        เมื่อไปถึงบริเวณวัดก็พบว่ามีรถจอดอยู่หลายร้อยคันและผู้คนเยอะมาก อาจเป็นเพราะตรงกับวันหยุด  เมื่อได้ที่จอดรถแล้วเราก็ไปเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนเพราะได้ยินเสียงโฆษกที่วัดประกาศว่าห้องน้ำบนเขาใช้ไม่ได้เพราะไม่มีน้ำ  และวันนี้ก็ไม่มีข้าวต้มเลี้ยงด้วยเช่นกัน  เราเริ่มเดินขึ้นเมื่อเวลาประมาณสิบโมงสิบนาที  เมื่อเห็นจำนวนขั้นบันไดที่มีป้ายบอกว่าทั้งหมด 3790 ขั้น ก็รู้สึกเหนื่อยเลยเหมือนกันแต่พอไปเห็นขนาดของความสูงของขั้นบันไดแล้วค่อยโล่งใจขึ้นเพราะสูงแค่สองสามนิ้วเอง   
เราเดินต่อแถวผู้คนไปเรื่อย ๆ จะมีราวเหล็กอยู่ตรงกลางแบ่งเป็นฝั่งขาขึ้นและฝั่งขาลง จำนวนคนขึ้นและคนลงก็ใกล้เคียงกันแสดงว่าวันนี้มีคนขึ้นไปตั้งแต่เช้าเยอะเหมือนกัน  ถึงแม้จะก้าวไม่สูงแต่ก็ทำให้เมื่อยมากเหมือนกัน  ผมชวนลูกสาวหยุดพักเป็นระยะ ๆ พยายามไม่ให้กล้ามเนื้อล้าและไม่ให้กล้ามเนื้อทำงานหนักเกินไป โชคดีวันนี้อากาศดีมีลมพัดแรงทำให้ไม่ร้อนมาก  บริเวณจุดพักจะเป็นร้านขายอาหารและน้ำซึ่งคนจะแน่นมากจนไม่มีที่นั่งว่าง  ระหว่่างทางเราจะเจอเจ้าหน้าที่วัดขนของลงมาด้วยวิธีพิเศษคือนั่งบนถุงคล้ายถุงปุ๋ยแล้วสไลด์มาตามราวเหล็กตรงกลางบันได และผมก็เห็นว่ามีการขายถุงให้ผู้ที่ต้องการลงแบบท้าทายนี้ด้วยราคาใบละยี่สิบบาท
     
   
ในที่สุดเราก็ขึ้นไปถึงยอดเขาเมื่อเวลาสิบเอ็ดโมงสี่สิบนาที  สรุปแล้วเราใช้เวลขึ้นเขาประมาณชั่วโมงครึ่ง  วันนี้ข้างบนลมแรงมาก ก่อนที่เราจะไปทำบุญและไหว้รอยพระพุทธบาท  เราเห็นป้ายบอกทางไปผานางฟ้าและยกช้างเสี่ยงทายซึ่งอยู่ที่สันเขาอีกด้านหนึ่ง  
หลังจากไปดูที่ผานางฟ้าและเห็นการยกช้างเสี่ยงทายเราก็มาถวายสังฆทานและขึ้นไปกราบรอยพระพทธบาท และแวะลงไปดูถ้ำแม่นางเกตุมณีศรีประจันต์  เดินชมวิวจนพอใจแล้วเราก็พากันเดินลงมาจากเขา  ขาลงเราใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียวและไม่เหนื่อยมากแต่จะรู้สึกเมื่อยบริเวณหน้าขามากกว่าขาขึ้นเวลาหย่อนตัวลงขั้นบันได




         การขึ้นเขาวงพระจันทร์ในครั้งนี้ของผม  ทำให้ผมได้ข้อคิดว่าเราต้องให้โอกาสตัวเองในการทำในสิ่งที่เราคิดว่าเราทำไม่ได้  ผมเห็นผู้สูงอายุ เด็กเล็ก  คนที่มีรูปร่างอ้วน  คนที่ดูสุขภาพไม่แข็งแรง เดินขึ้นเขาวงพระจันทร์ มีบางคนประเมินตนเองว่าไม่ไหวก็ขอหันหลังกลับ  แต่ส่วนใหญ่สามารถขึ้นไปถึงยอดเขาได้   สำหรับผมแรงบันดาลใจคือการเห็นคนอื่นทำได้เราก็ต้องทำได้  แต่ไม่ได้หมายความว่าเราต้องทำแบบเขาทุกอย่าง เพราะผมก็เดินไปพักไปตามกำลังและสภาพของตัวเอง รู้ตัวเองว่าไหวแค่ไหน
ซึ่งสุดท้ายผมก็ได้ทำตามฝันที่เคยคิดไว้ว่าจะพิขิตเขาวงพระจันทร์ด้วยการเดินขึ้นบันได 3790 ขั้นได้


                                                                                                                 ราเมศร์  ก.พ.60