วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559

สวางค์ สวรรค์ สรรเสก

     ในความ  เจ็บปวด  รวดร้าว
มองฟ้า  หาดาว  พราวแสง
ต่างตา  ห่วงรัก  ประจักษ์แจ้ง
มอบขวัญ  กล้าแกร่ง  แรงใจ
     ตะวันเรื่อ  เอื้อแสง  สีทอง
สาดส่อง  ต้องหยาด  น้ำใส
ระยิบระยับ  ประดับ  เขียวไพร
ชายเลน  แมกไม้  ในสวางค์
     กาน้ำ  กระยาง  นางนวล
เหินหวน  ทวนลม  รุ่งสาง
หมอกหม่น  ร่มใบ  รางราง
เรือน้อย  ลอยคว้าง  ชมทะเล
     เดือนเคียว  เกี่ยวฟ้า  เฝ้ามอง
นกซร้อง  ก้องไกล  สรวลเส
ปลุกเถื่อน  เพื่อนป่า  ฮาเฮ
คลื่นเห่  เร่รัก  เริงรมย์


 
 คืนหนึ่ง  คืนนั้น  จันทร์ยิ้ม
สองดาว  เพราพริ้ม  สุดสม
เพื่อนเอ๋ย  เพื่อนไข้  ได้ชม
สะอื้น  ขื่นขม  สุขพลัน
     สวางค์   สวรรค์  สรรเสก
มุ่นเมฆ  กรายป่า  พนาสัณฑ์
เช้าสาย  บ่ายเย็น  คืนวัน
ประดุจหมอฯลฯ  เวียนกัน  สู่ขวัญเรา
     ขอสิ่ง  ศกดิ์สิทธิ์  ฤทธิไกร
รับกราบ  คนไข้  หายเหงา
บันดาล  งานหมอฯลฯ   บางเบา
เลิศเชาว์  เลิศลักษณ์  ภัคดิพร






รองศาสตราจารย์ประภาศรี  ศิริจรรยา                                       ร้อยกรอง
ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู สวางคนิวาส บางปู                                     ๒๕๕๒







             นี่เป็นบทร้อยกรองที่รองศาสตราจารย์ประภาศรี  ศิริจรรยา  มอบให้ไว้เมื่อครั้งที่ท่านมาเข้ารับการฝึกฟื้นฟูร่างกายที่ศูนย์เวชศาสตร์ฟืื้นฟู สภากาชาดไทย ท่านไม่ได้เป็นคนไข้ในการดูแลของผมโดยตรง  แต่ด้วยรูปแบบการให้บริการแบบแฟมิลี่ของเรา  ทำให้ผมได้รับการเอ็นดูและเมตตาจากท่าน  และกรุณาให้คำอบรมสั่งสอน  ผลักดันให้มีการพัฒนาตนเองในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านภาษาอังกฤษ
            ผมรื้อเอกสารเก่าที่เก็บไว้แล้วก็พบกลอนบทนี้อีกเจ็ดปีต่อมานับจากที่ท่านมอบกลอนบทนี้ให้  ทำให้นึกถึงท่านและอยากทั้งเก็บและเผยแพร่กลอนบทนี้ในเวลาเดียวกัน  จึงขอนำกลอนบทนี้ลงไว้ในบล๊อกนี้
                                                                                                ราเมศร์
                                                                                          ตุลาคม ๒๕๕๙

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น